วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สุดยอดนักตบขนไก่ไทยคว้า 4 แชมป์ที่บาห์เรน

          ขอแสดงความยินดีกับ 4 แชมป์ และ 2 รองแชมป์ในรายการ "Bahrain International Challenge 2015" ชิงเงินรางวัลรวม 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 525,000 บาท ที่ประเทศบาห์เรน เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย.
12191854_965903430141947_4389361902181087227_n

          รอบชิงชนะเลิศ หญิงเดี่ยว "แน็ต" ณิชชาอร จินดาพล มือ 33 ของโลก ชนะ ไซลี่ เรน มือ 58 ของโลก จากอินเดีย 24-22, 21-10 คว้าแชมป์ระดับ "อินเตอร์เนชั่นแนล ชาลเลนจ์" เป็นรายการที่ 2 ของปีนี้ต่อจากศึก "สวิส อินเตอร์เนชั่นแนล" ที่สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

          ชายคู่ "อาท" บดินทร์ อิสสระ/"ต้นน้ำ" นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร คู่มือ 46 ของโลก ชนะ "เต็น" วรรณวัฒน์ อำพันสุวรรณ/"ติน" ติณณ์ อิสริยะเนตร คู่มือ 96 ของโลก 21-9, 21-14 คว้าแชมป์ระดับ "อินเตอร์เนชั่นแนล ชาลเลนจ์" เป็นรายการที่ 2 ของปีนี้ต่อจากศึก "คาร์เคียฟ อินเตอร์เนชั่นแนล" ที่ยูเครน เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

          หญิงคู่ "เอ็มเอ็ม" สาวิตรี อมิตรพ่าย/"มุก" พชรพรรณ ช่อชูวงศ์ คู่มือ 120 ของโลก ชนะ "เบส" ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม/"จ๋อมแจ๋ม" ผไทมาส เหมือนวงศ์ คู่มือ 40 ของโลก 21-6, 15-21, 21-16

          และคู่ผสม บดินทร์ อิสสระ/สาวิตรี อมิตรพ่าย คู่มือ 91 ของโลก ชนะ แดนนี่ บาวา คริสนันต้า/ยู ยาน วาเนสซ่า นีโอ คู่มือ 18 ของโลก จากสิงคโปร์ 21-17, 21-19

          สำหรับประเภทเดี่ยว แชมป์รับเงินรางวัล 1,125 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 39,375 บาท ส่วนรองแชมป์รับ 570 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 19,950 บาท ขณะที่แชมป์ประเภทคู่รับ 1,185 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 41,475 บาท ส่วนรองแชมป์รับ 570 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 19,950 บาท

เรียบเรียงข้อมูลโดยสปอร์ตนิวส์
ที่มา : facebook.com/ThailandBadminton

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

[ข่าวกีฬา]สุดยอดทัพยิง "เป้าบิน" ไทยคว้า 2 ทองเอเชีย

เป้าบิน1

          นักยิงเป้าบินสาวไทยคว้า 2 แชมป์จากการแข่งขันยิงเป้าบินชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2015 “เอเชียนแชมเปี้ยนชิพ 2015” ครั้งที่ 13 ที่ประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน

          ประเภทสกีต ทีมไทยประกอบด้วย “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักยิงเป้าบินมือ 1 ของไทย พร้อมด้วย 2 สาว “น้ำหวาน” นัชญา สุทธิ์อาภรณ์ และ “วอร์ม” อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข คว้าเหรียญทองประเภททีมมาครองโดยยิงได้ 211 คะแนน (72-71-68) ส่วนเหรียญเงิน จีน 209 คะแนน ทองแดง คูเวต 201 คะแนน ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมชุดนี้เคยได้เหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุดที่เกาหลีใต้

558000012821401

          ส่วนประเภทบุคคลหญิง “วอร์ม” อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข คว้าเหรียญทองในระดับเอเชียเหรียญแรกในชีวิต โดยในรอบคัดเลือกยิงได้ 71 คะแนน (22-24-25) ส่วนรอบรองชนะเลิศยิงได้ 15 คะแนน และรอบชิงชนะเลิศ ยิงได้ 14+4 คะแนน ชนะคูแข่ง หลินเปียวเปียวจากจีน ที่ยิงได้ 14 คะแนน+3
About the Author

เรียบเรียงข้อมูลโดยสปอร์ตนิวส์
ที่มา : www.manager.co.th

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รีวิวขนมๆ ทิวลี่ชาเขียวมัทฉะ 10 บาท

เข้า7-11ฮะ ชีวิตเราอยู่กะ7 เป็นหลัก
ช่วงนี้เห็นมีกระแสไม่เข้า7-11แต่นู๋ก็เข้าของนู๋เหมือนเดิม

วันนี้เราจะมารีวิวเจ้านี้นะ
ทิวลี่ กลิ่นชาเขียว(ย้ำว่ารสครีม กลิ่นชาเขียวมัทฉะ)

มาดูจำนวนแคล 130 แคล ฮะ

และนี่ก็คือส่วนประกอบของเจ้าทิวลี่จ๊ะ

แกะซองเลยฮะ.. คือดีงามน่ากินจิงไรจิง
ตอนแกะมานี่แบบ กลิ่นชาเขียวหอมมมมมม ฝุดๆ

จะรอไร กินล๊ะนะค๊าาาา อ๊ามมมม!!
เอ้ย รสชาติหวานไปหน่อย ให้ความรู้สึกแค่หอมชาเขียวมากๆอย่างเด่ว
ตัวครีมก็รสครีมนมทั่วไปนะ ออกหวานไปสำหรับเราอ่ะ 
สรุปคือ ความเป็นชาเขียวนั้นได้มาแค่กลิ่นนะจ๊ะ





วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ทริปพาแม่หนีพ่อเที่ยว พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ กินเกร็ดหิมะเกาหลีที่ SnowTree@Esplanade

ทริปนี้มีแค่แม่ เรา น้อง ดังนั้น จึงตั้งชื่อทริปว่า..
"พาแม่หนี....พ่อเที่ยว" ซะเลยอิอิ
วันนี้เราไปเริ่มต้นกันที่ ช้างเอราวัณกัน
ค่าเข้าตอนนี้ที่ไปอยู่ที่คนไทยราคา คนละ 200 บาท

จริงๆบ้านเราก็ไม่ได้อยู่ไกลมากจากที่นี่นะแต่เพิ่งเคยมาครั้งแรกเนี่ยแหละ 
มีกรุ๊ปทัวร์มาลงที่นี่เยอะเหมือนกัน

ในราคาบัตรเข้านี่เค้ารวมค่าดอกไม้ทูปดอกบัวไว้ให้หมดล่ะ 
ก็ไหว้ก่อนเข้ามาข้างในกันแล้วก็ไปลอยดอกบัว

เข้ามาก็รู้สึกถึงความสวยงามชั้นแรกคือชั้นสุวรรณภูมิ
(ที่เรากับแม่และน้องไม่ได้ลงไป)ที่เราเริ่มต้นเลยคือชั้นมนุษย์


ระหว่างทางขึ้นชั้นจักรวาล

อ้อเราลืมบอกไปว่าห้ามใส่สั้น กระโปรงเลยเข่าขึ้นไปต้องใส่ผ้าถุงแบบนี้
เค้ามีให้เปลี่ยนก่อนเข้าช้าง เรานุ้งไม่เป็นแม่เลยทำให้ อิอิ ต่อไปเรากำลังจะขึ้นไปชั้นบนล่ะนะ

ทางบันไดขึ้นจะเป็นซอกเล็กๆแต่ก็ไม่ได้แคบจนอึดอัด จะมีภาพวาดแบบนี้ตลอดทางบันได

สุดทางบันไดขึ้นมาแล้วจะเจอชั้นนี้ก่อน ค่อยขึ้นไปต่ออีกชั้นบนสุด
(ชั้นนี้มีลิฟนะ จิงๆขึ้นลิฟก็ได้แต่อยากให้แม่เดินชมความสวยงาม)555

ต่อกันที่ทางขึ้นชั้นบนสุดค่ะ

ชั้นนี้สวยงามมากจริงๆและก็ถ่ายรูปมากไม่ได้เพราะเค้าห้ามถ่าย 555


ลงมานั่งพักผ่อนด้านล่างมีสวนสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะเลยแต่ไม่ได้เดินต่อ หิวๆกัน

ก็เลยออกมาตรงทางซื้อบัตรเข้าไปสะดุดตาไอสครีมนมสดเลยสอยกันมากิน
ง่อววว์ คือดีอ่ะ แม่กินรสนม น้องวนิลา เราช๊อคโกแล๊ต อร่อยดีมากๆเลย แต่แบบแพงไปนิด 30บาทง่ะ

กินเสร็จล่ะก้อกลับๆ ชวนแม่ไปเมืองโบราณแม่ก็ไม่ยอมไปเลยไปพักกันที่ห้อง ก่อนออกไปเที่ยวกันต่อ

ง่อวว์ตอนเย็นจะพาแม่มาเดินตลาดรถไฟรัชดาซะหน่อย ปิดวันจันซะงั้น 
ก็เลยพามาหาอะไรเย็นๆกินที่ Snow Tree @Esplanade
เรากะแม่สั่งคนละถ้วยขนาดเล็ก

สิ่งที่ได้มาคือเจ้านี้ ตอนแรกก็งงๆอะไรวะ พอของมาไอ้เจ้านี้มันสั่นกื๊ดดดดกื๊ดดดด 
ก้อ อ๋อมันให้ไปรับของ 555

ได้มาแร้วๆ อร๊ายยยยหน้าตาดีเลยอ่ะ
เมนูที่สั่งไปคือ Strawberry snow flake และ Mango snow flake

ไอย๊ะอร่อยดีนะ แถมกินไม่หมดด้วยอ่ะแน่น เป็นภาระแม่อีก 
เกร็ดหิมะมันนมๆอ่ะ แระเย็นมากกก นู๋หนาวว กินม่ายหมด






วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

ทริป เกาะสีชัง แบบไม่ทันตั้งตัว


ทริปนี้เร่งด่วนไหม?
เอาจิงๆก็ไม่ขนาดนั้น เปิดหารีวิวดูไปเรื่อย
จุดเริ่มต้นการเดินทางจาก กทม สู่เกาะลอย ทริปนี้เราไปแบบ เช้า-เย็นกลับ

ด้วยการซื้อตั๋วนั่งเรือข้ามไปเกาะสีชังราคาคนละ50บาท

เราเดินทางมากัน3คนสำหรับทริปนี้เลยเลือกนั่งสกายแลปกันด้วยการเหมาขึ้นรถมาราคา 250 
คุณลุงใจดีบริการดีเลยหารกันคนละร้อยให้ลุงเพิ่มไป50 อิอิ

ที่แรกที่ลุงพามาคือศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ แต่ด้วยความซน
ดันไปเห็นทางขึ้นรอยพระพุทธบาทจำลองเลยเดินๆตามเพื่อนไป

ระหว่างทางก็มีองค์พระให้กราบไหว้อยูตลอด

และก็บังเอิญเดินมาเจอมุมนี้เข้า สวยจุง

แล้วเราก็ได้ไหว้ไหว้เสด็จพ่อ .5 

จากนั้นก็เดินขึ้นเขากันฮะ จะขึ้นไปรอยพระพุทธบาท เกาะสีชังกัน 
มีคนเค้าเขียนบอกว่าไม่ไกล เดี๋ยวก็ถึง ก็เลยขึ้นมากันเลยคับ

กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้หอบเกือบกิน เหนื่อยมากๆแต่ในใจคิดนะว่าอีกนิดนึง อีกนิดถึง ไหนๆก็มาแล้ว

หน้าแบบไม่ไหวแล้ว โลกเกือบชัดดาวน์แนะหน้าแทบมืด

ในที่สุดเราก็มาถึงนี่เนาะ เก่งจัง อิอิ

รอยพระพุทธบาท เกาะสีชัง

ไหว้เสร็จเจอทางลงมีร้านค้าขายน้ำโชคดีของเรา เพราะกระหายน้ำมากมาย
ตรงข้ามร้านป้าขายน้ำเจอป้ายนี้เข้าเลยแชะเก็บไว้

และเราก็เดินลงเขากันมาด้านล่าง ได้วิวสวยงามอีกแล้ว

เราลงมาไหว้พระกันแต่น่าเสียดายที่มารู้กันทีหลังว่าศาลเจ้าพ่อจริงๆอยู่ข้างใน นี่ก็ไหว้กันแต่ด้านนอก

เรานี่ยืนขาใหญ่เฝ้าสุขาเลย ขานี่สั่นฝุดๆ

และนี่ก็คือที่ที่สองที่ลุงพามา จริงๆมีจุดชมวิวด้านบนแต่ขึ้นบันไดกันไม่ไหวแล้วจริงๆ
เลยเดินถ่ายรูปกันแค่ด้านล่าง เพราะโดนตัดกำลังไปเย๊อะ จากจุดแรก

พอเห็นสีน้ำได้ยินเสียงคลื่นแล้วชื่นจายยย

เห็นมุมไกลๆตรงปลายทางไหม นั้นคือแลนด์มาร์คที่เราจะเดินไปถ่ายรุปกัน

คือกลัว คือไม่กล้าขะเถิบ เซลฟี่ตรงนี้ดีกว่าปลอดภัยๆ

จุดที่สามของเรามาถึงแล้ว สะพานอัษฎางค์ เกาะสีชัง แลนด์มารค์ๆ
รออะไร ถ่ายรูปสิ

และนี่ก็เป็นอีกมุมยอดฮิต อิอิ
พอดีเราไปวันจัน ที่นี่เค้าปิดหมดเลย แงๆ

เราก็เลยนั่งพัก ถ่ายรูปไปเพลินๆ

แอบหลงรักเจ้าต้นนี้เข้า ไม่รู้ต้นอัไร เหมือนอยู่สวรรค์เลย ผีเสื้อบินเต็มไปหมด

หลังจากหายเหนื่อยกันแล้วเราก็โทรให้ลุงมารับไปที่สุดท้ายก่อนกลับ คือหาดถ้ำพังนั้นเอง

เรามาแวะทานอาหารกันที่นี่ พักกันที่นี่ได้อีกพักใหญ่ๆก่อนจะกลับ
หมึกผัดไข่เค็มอร่อยมาก
ข้าวผัดก็ไม่หวงกุ้ง ปลาหมึก
คอหมูย่างก็อร่อยดี โดยร่วมอร่อยหมดแต่เสียอย่างสองอย่างนิดหน่อย 
คือสงสัยป้าจะรีบ ไม่บั้งกุ้งเอาเส้นดำออก แระหมึกก็ยังมีแผ่นใสๆอยุ่ในตัวอยุ่เลย
(ซึ่งเราไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรอ่ะ รู้แต่ว่ามันจะอยู่ในตัวปลาหมึก)

ที่นี่ก็เล่นน้ำได้นะ น้ำใสดี


ถ่ายกับน้องทอมตุ๊ดบ้าง นานๆพี่น้องจะเซลฟี่กัน

บางทีก็คิดนะ เวลาแห่งความสุขช่างหมดไปไวจัง
เพิ่งจะได่เอาเท้าสัมผัสทราย สัมผัสน้ำทะเลเองง่ะ ต้องกลับซะล๊ะ

คุณลุงมารับตอนห้าโมงครึ่ง ซึ่งเราต้องนั่งเรือกลับรอบหกโมง เพราะลุงบอกว่าถ้าไม่ทันรอบนี้ รอบถัดไปค่าเรือจะแพง เพราะเค้าคิดราคาเพิ่ม

รูปที่ได้มาชัดบ้างไม่ชัดบ้างเพราะพกไปแค่
กล้อง canon รุ่นเก่ามากๆ กับไอโฟน4ที่เก่ามากๆเช่นกัน
พร้อมกับเลนส์ติดมือถือซุปเปอร์วายนั้นเอง